อาหารเสริมเพื่อผิวสวย "Hi-Balanz Lycopene 30 cap ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฮบาลานซ์ ไลโคพีน บำรุงผิวใสอมชมพู พร้อมป้องกันผิวจากรังสี UVA,UVB ขนาด 30 แคปซูล 1 กล่อง" ตอนนี้ราคาลด 58% จากราคาเดิม 650.00 บาท ลดเหลือ 270 บาท เท่านั้น สินค้าจัดส่งมาจาก นนทบุรี และมีคนที่เคยสั่งซื้อไปแล้วกลับมารีวิวทั้งหมด 32 รีวิว ถือว่าสินค้านี้มีคนรีวิวสินค้าเยอะมาก และมี Rating Score อยู่ที่ 4.88 Rating Score เต็ม 5 ยี่ห้อ Hi-Balanz และขายโดยร้าน We Angel Shop
ประโยชน์ของไลโคพีน
1.บุคคลที่รับประทานมะเขือเทศบด40กรัมต่อวัน ได้รับสารไลโคปีน16กรัมต่อวัน จะมีอัตราของอาการ เผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ลดลง40%หลัง จากรับประทานมะเขือเทศติดต่อกันนาน10สัปดาห์
2.ไลโคปีนช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
3.ผู้เข้ารับการทดสอบที่รับประทานมะเขือเทศในปริมาณสูงที่สุด10ครั้งต่อสัปดาห์ มีอัตราเสี่ยง ในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำกว่าเมื่อเปรียบ เทียบกับผู้ที่รับประทานน้อยกว่า
1.5ครั้งต่อสัปดาห์
4.การรับประทานมะเขือเทศในอัตราสูงจะช่วยลดอัตราการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากทุกประเภท ได้ถึง35%และลดความรุนแรงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก53%
5.สารสกัดจากมะเขือเทศที่ประกอบด้วยไลโคปีน30มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไข้ภายหลังจากการรักษา โรคมาแล้ว3สัปดาห์
6.ไลโคปีนอาจจะมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก โดยจะลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนา วงจรชีวิตของเซลล์ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะG1)ไลโคปีนอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
7.บุคคลที่มีสารสกัดพลาสมาไลโคปีนที่สูงที่สุดจะมี เปอร์เซ็นต์ของการเกิดการหนาตัวของหลอดเลือดIMT (intima
-mediated thickness)ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดระยะเริ่มต้นได้ต่ำสุด ถึง90%ดังนั้นการได้รับไลโคปีนในปริมาณที่สูงอาจช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด การรับประทานไลโคปีนสามารถลดอัตราเสี่ยงของการ เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอุดตันต่ำกว่า60%สำหรับบุคคลที่มีสารสกัดไลโคปีนสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีสารสกัดไลโคปีนต่ำสุดไลโคปีน อาจจะลดความรุนแรงของการเผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed
-lycopene)เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง
2.5เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน
1.บุคคลที่รับประทานมะเขือเทศบด40กรัมต่อวัน ได้รับสารไลโคปีน16กรัมต่อวัน จะมีอัตราของอาการ เผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ลดลง40%หลัง จากรับประทานมะเขือเทศติดต่อกันนาน10สัปดาห์
2.ไลโคปีนช่วยลดอัตราเสี่ยงการเป็นมะเร็งหลายชนิด โดยเฉพาะมะเร็งต่อมลูกหมาก
3.ผู้เข้ารับการทดสอบที่รับประทานมะเขือเทศในปริมาณสูงที่สุด10ครั้งต่อสัปดาห์ มีอัตราเสี่ยง ในการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากต่ำกว่าเมื่อเปรียบ เทียบกับผู้ที่รับประทานน้อยกว่า
1.5ครั้งต่อสัปดาห์
4.การรับประทานมะเขือเทศในอัตราสูงจะช่วยลดอัตราการเป็นโรคมะเร็งต่อมลูกหมากทุกประเภท ได้ถึง35%และลดความรุนแรงของโรคมะเร็งต่อมลูกหมาก53%
5.สารสกัดจากมะเขือเทศที่ประกอบด้วยไลโคปีน30มิลลิกรัมต่อวัน จะช่วยลดการเจริญเติบโตของโรคมะเร็งต่อมลูกหมากในคนไข้ภายหลังจากการรักษา โรคมาแล้ว3สัปดาห์
6.ไลโคปีนอาจจะมีส่วนสำคัญในการยับยั้งการเจริญเติบโตของเซลล์มะเร็งเต้านมและมะเร็งปากมดลูก โดยจะลดการเกิดเนื้องอกและยับยั้งการพัฒนา วงจรชีวิตของเซลล์ในช่วงต้นของการเกิดเซลล์มะเร็ง (ระยะG1)ไลโคปีนอาจช่วยป้องกันความเสี่ยงต่อการเป็นโรคหัวใจ
7.บุคคลที่มีสารสกัดพลาสมาไลโคปีนที่สูงที่สุดจะมี เปอร์เซ็นต์ของการเกิดการหนาตัวของหลอดเลือดIMT (intima
-mediated thickness)ซึ่งเป็นตัวบ่งชี้ของโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือดระยะเริ่มต้นได้ต่ำสุด ถึง90%ดังนั้นการได้รับไลโคปีนในปริมาณที่สูงอาจช่วยลดอัตราเสี่ยงของการเป็นโรคไขมันอุดตันในเส้นเลือด การรับประทานไลโคปีนสามารถลดอัตราเสี่ยงของการ เป็นกล้ามเนื้อหัวใจอุดตันต่ำกว่า60%สำหรับบุคคลที่มีสารสกัดไลโคปีนสูงที่สุดเมื่อเปรียบเทียบกับผู้ที่มีสารสกัดไลโคปีนต่ำสุดไลโคปีน อาจจะลดความรุนแรงของการเผาไหม้ของผิวหนังจากแสงอาทิตย์ ร่างกายไม่สามารถสังเคราะห์ไลโคปีนเองได้ ดังนั้นเราจึงต้องรับประทานไลโคปีนเข้าไปจากผักผลไม้ หรืออาหารเสริม โดยไลโคปีนจะไปกระจายอยู่ทั่วไปในเนื่อเยื่อบริเวณที่แตกต่างกัน โดยส่วนใหญ่พบการสะสมของไลโคปีนมากที่ต่อมหมวกไต ลูกอัณฑะ และตับ จากการศึกษาวิจัยพบว่าไลโคปีนที่ผ่านกระบวนการใช้ความร้อน (heat processed
-lycopene)เช่น การปรุงอาหาร ร่างกายจะสามารถดูดซึมไปใช้ได้ดีกว่าไลโคปีนในธรรมชาติ นอกจากนั้น การใช้ความร้อนในการประกอบอาหารยังทำให้ไลโคปีนที่อยู่ในผนังเซลล์ของผักและ ผลไม้ละลายออกได้มากขึ้น ทำให้ดูดซึมในระบบย่อยอาหารได้ดีกว่ารับประทานแบบสดถึง
2.5เท่า ดังนั้นหากจะรับประทานผักและผลไม้เพื่อให้ร่างกายได้รับไลโคปีน จึงควรนำผักและผลไม้ไปปรุงให้สุกก่อน
ข้อมูลเฉพาะ อาหารเสริมเพื่อผิวสวย
- แบรนด์ Hi-Balanz
- SKU 341128556_TH
- ร้านค้า We Angel Shop
หากรายละเอียดยังไม่เพียงพอ โปรดดูรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่ร้านด้านล่าง....
We Angel ShopHi-Balanz Lycopene 30 Cap ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฮบาลานซ์ ไลโคพีน บำรุงผิวใสอมชมพู พร้อมป้องกันผิวจากรังสี Uva,uvb ขนาด 30 แคปซูล 1 กล่อง ที่ช่วยให้ชีวิตคุณดียิ่งขึ้น ง่ายรวมทั้งสะดวกเพิ่มขึ้น ถ้าหากคุณมาช้อปปิ้ง Hi-Balanz Lycopene 30 Cap ผลิตภัณฑ์เสริมอาหารไฮบาลานซ์ ไลโคพีน บำรุงผิวใสอมชมพู พร้อมป้องกันผิวจากรังสี Uva,uvb ขนาด 30 แคปซูล 1 กล่อง กับพวกเรา ยืนยันว่าคุณจะชอบใจในความสะดวก
Add a review